บทความ

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจหลายๆ ประเภทปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่เกือบทั้งหมด ร้านอาหารจากที่เปิดให้ลูกค้านั่งทางในร้านได้ ก็ปรับให้ลูกค้าซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือบริการลูกค้าแบบเดลิเวอรี่แทน ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อย่างเห็นได้ชัดเจน วันนี้จะพาไปส่องเทรนด์ผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้นในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาดูกันว่าจะมีเทรนด์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เพื่อธุรกิจจะได้ตรียมความพร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมตอบโจทย์ผู้บริโภคเหล่านั้น   

การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อร้านค้าปลีก และร้านอาหารไปทั่วโลก หลายๆ ร้านในพื้นที่เสี่ยงต้องปิดให้บริการชั่วคราว หรือเปิดให้บริการแบบเดลิเวอรี่เท่านั้น สำหรับร้านค้าปลีกและร้านอาหารที่ยังเปิดให้บริการอยู่นั้น ล้วนแต่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการให้บริการลูกค้าให้สอดคล้องกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างรายได้

วิธีการขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงาน • กรณีว่างงาน (สำหรับลูกจ้าง / ผู้ประกันตน) • กรณีชราภาพ (สำหรับลูกจ้าง / ผู้ประกันตน) • กรณีนายจ้างรับรองกรหยุดงานของลูกค้า อันเนื่องจากเหตุสุดวิสัย (สำหรับนายจ้าง)

พนักงาน ลูกจ้าง ต้องหยุดทำงานเป็นการชั่วคราว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไม่ได้ทำงานเต็มรูปแบบ ทำให้หลายๆ คนมีรายได้ลดลง หรืออาจมีรายได้เท่าเดิม แต่ต้องดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤตโควิด-19 เช่นนี้ ไม่รู้ว่าบริษัท กิจการ โรงงาน ที่ตัวเองทำอยู่นั้นจะยืนหยัดอยู่รอดหรือไม่

เมื่อความน่าเชื่อถือและความเชื่อใจ รวมถึงความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ใช้เป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือเลือกใช้บริการ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานต่างๆ จึงเข้ามามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่ามีแนวโน้มลุกลามต่อเนื่อง การทำงานจากที่บ้านได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนทำงานจำนวนมากและอาจเป็นความต้องการแบบฉับพลันทันด่วนของใครบางคน มีองค์กรเพียงไม่กี่แห่งที่เตรียมความพร้อมระดับองค์กรในเรื่องการทำงานจากที่บ้าน แต่คุณสามารถดำเนินการเป็นขั้นตอน เพื่อก่อให้เกิดประสบการณ์การทำงานที่มีประสิทธิผลทั้งต่อพนักงานและองค์กร

พ.ร.ก. คือ กฎหมายที่ให้อำนาจพิเศษแก่รัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ**ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด หรือคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 18)

การลดอัตราภาษี หัก ณ ที่จ่ายจาก 3% เหลือ 1.5% เริ่ม 1 เม.ย-30 ก.ย. 63 นี้ใช่มั๊ยคะ ตอนนี้บริษัทลูกค้าเริ่มส่งเอกสารมาแจ้งแล้วว่าจะเริ่มหักตามอัตราดังกล่าว ในวันที่ 1 เม.ย – 30 ก.ย 63 นี้คะ

ลูกจ้างผู้ทำงานให้กับนายจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการ หรือพนักงานเอกชน