6 วิธีบริหารเงินให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

6 วิธีบริหารเงินให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤตโควิด-19


พนักงาน ลูกจ้าง ต้องหยุดทำงานเป็นการชั่วคราว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไม่ได้ทำงานเต็มรูปแบบ ทำให้หลายๆ คนมีรายได้ลดลง หรืออาจมีรายได้เท่าเดิม แต่ต้องดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤตโควิด-19 เช่นนี้ ไม่รู้ว่าบริษัท กิจการ โรงงาน ที่ตัวเองทำอยู่นั้นจะยืนหยัดอยู่รอดหรือไม่ 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มี 6 วิธีบริหารเงินให้อยู่รอด เมื่อรายได้ลดลงในช่วงวิกฤตโควิด-19 มาแชร์ให้ทราบ
 
1.ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ช่วงการระบาดของโควิด-19 หลายๆ คนที่รายได้ลดลงจากวิกฤต อาจจะต้องลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หรือจัดลำดับความสำคัญว่าสิ่งไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็น อะไรประหยัดได้ก็ควรที่จะประหยัด อย่างเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ซื้อเสื้อผ้า หรือการสต็อกวัตถุดิบต่างๆ แนะนำว่าให้คำนวณค่าใช้จ่ายหรือทำตารางรายรับรายจ่ายล่าวงหน้าไว้ก็จะดีมากๆ 
 
2.บริหารจัดการหนี้เก่า
ในกรณีที่มีหนี้ที่จำเป็นต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน แต่กลับมีรายได้ลดลง ขาดรายได้ หรืออยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ไหว เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ควรวางแผนการจ่ายหนี้เก่าให้เรียบร้อยก่อนจะกลายเป็นหนี้เสีย
 
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ปัจจุบันภาครัฐได้มีมาตรการต่างๆ และเอกชนออกมาช่วยเหลือพอสมควร ใครที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการช่วยเหลือก็สามารถใช้โอกาสตรงนั้นเพื่อลดภาระได้
 
สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในข่ายความช่วยเหลือ ก็สามารถพูดคุยเจรจาการจ่ายหนี้ เพื่อลดภาระหนี้ชั่วขณะได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย พักจ่ายเงินต้นไว้ชั่วคราว ซึ่งจะช่วยเบาภาระการผ่อนเงินก้อนใหญ่ๆ ได้ หรืออาจขอเจรจาแบบตรงไปตรงมา ขอหยุดชำระชั่วคราวระยะสั้น 3-6 เดือน โดยอาจจะต้องแสดงข้อมูลทางการเงินว่ารายรับรายจ่ายของเราลดลงจนไม่มีศักยภาพที่จะชำระได้ตรงตามเวลาจริง หากสมเหตุสมผล แบงก์ก็อาจจะพิจารณาให้เพื่อแบ่งเบาภาระในช่วงนี้
 
3.ชะลอการก่อหนี้ใหม่
วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้ลุกลามส่งผลกระทบต่อธุรกิจไปทั่วโลก กิจการหลายแห่งปิดกิจ หรือปิดให้บริการชั่วคราว ทำให้พนักงาน ลูกจ้างจำนวนมาก ต้องตกงาน ส่วนพ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ ขณะที่รายจ่ายมีเท่าเดิม
 
ดังนั้น หากคิดจะสร้างอะไรใหม่ๆ ที่จำเป็นต้องมีภาระหนี้สินตามมา อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือสร้างหนี้ก้อนใหญ่ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือพิจารณาให้รอบคอบก่อน ถ้าสิ่งที่กำลังจะซื้อไม่จำเป็นจริงๆ ณ เวลานี้ ก็อย่าเพิ่งรีบซื้อ เพราะการสร้างรายจ่ายถาวรในสภาวะที่รายได้ไม่ถาวร หรือรายรับสั่นคลอนเป็นเรื่องที่อันตราย
 
4.ควบคุมรายจ่ายอย่างรัดกุม 
ในสถานการณ์วิกฤต การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม คือ วิธีการบริหารจัดการเงินที่ได้ผลดี ในภาวะเช่นนี้เป็นช่วงที่ต้องจัดการเงินสำหรับส่วนที่จำเป็น และส่วนที่ไม่จำเป็นให้ได้อย่างชัดเจน เพื่อควบคุมให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่น 
 
สำหรับรายจ่ายที่จำเป็นและต้องให้ความสำคัญก่อน เช่น การค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาของลูก จะต้องถูกจัดสรรไว้เป็นอันดับแรกเมื่อมีรายได้ แล้วค่อยปรับลดค่าใช่จ่ายส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นน้อยกว่าลง เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในแต่ละเดือนมากขึ้น หรือถ้าเป็นไปได้ในช่วงนี้ก็ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปเลย
 
5.มองหาอาชีพเสริมสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
การหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในช่วงวิกฤต เป็นสิ่งสำคัญในการอยู่รอดในช่วงรายได้หลักๆ ลดลง แต่ต้องดูว่าอาชีพไหนที่เหมาะกับตัวเองในช่วงโควิด-19 ระบาด เช่น พนักงาน Delivery มีหลายบริษัทดังๆ มากมาย เช่น Lineman , Grab , Food Panda ,Get , Lalamove เป็นต้น หรืออย่างอาชีพติวเตอร์ออนไลน์ ขายของออนไลน์ หรืองานฝีมือเย็บหน้ากากผ้าขาย
 
6.ลงทุนอย่างระมัดระวัง สร้างโอกาสในอนาคต
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจซบเซา รวมถึงโควิด-19 แม้ดูว่าน่ากลัว แต่อย่ากลัวจนถึงขั้นไม่ลงทุน หรือไม่ใช้จ่ายอะไรเลย เพราะว่าในช่วงเวลาที่คนอื่นกลัว คุณอาจปันเงินบางส่วนใส่ไว้ในการลงทุนบ้าง เพราะหลายครั้งจะเห็นว่าเมื่อเศรษฐกิจกลับมา คนที่ยังมีการลงทุนต่อเนื่องในช่วงเวลาแบบนี้ ก็มักจะได้ผลตอบแทนที่ดี ในช่วงที่เศรษฐกิจกลับคืนมาค่อนข้างดีเสมอ
 
ทั้งหมดเป็น 6 วิธีการบริหารจัดการด้านการเงินให้อยู่รอด ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจซบเซา รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้หลายกิจการต้องปิดให้บริการชั่วคราว พนักงานมีรายได้ลดลง รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ ขณะที่รายจ่ายต่างๆ มีเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น

ที่มา : http://www.thaifranchisecenter.com/
 2666
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในยุคดิจิตอลนี้ มี software มากมาย ที่เป็นตัวเลือกให้ธุรกิจได้ตัดสินใจเลือกใช้ เพราะแต่ละโปรแกรมก็มี Features แตกต่างกันออกไป แล้วจะเลือก โปรแกรมเงินเดือน หรือ โปรแกรมบัญชี อย่างไรให้เหมาะสมธุรกับธุรกิจคุณ ตามมาดูกัน

Prosoft อยากให้นักธุรกิจยุคใหม่ได้ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตและปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่การแข่งขันสูง 
ในบทความนี้ Prosoft จึงได้รวบรวบโปรแกรมสำเร็จรูป ที่นักธุรกิจยุคใหม่ห้ามพลาด จะมีซอฟต์แวร์อะไรบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ

การนำเอาโปรแกรมบัญชีเข้ามาช่วยเหลือร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ในการบริหารจัดการร้านค้า ถือว่ามีประโยชน์และข้อดีเป็นอย่างมาก เพื่อให้เจ้าของกิจการจัดการการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อสินค้าในการ Shopping 
ปัจจุบัน โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป ที่มีอยู่มีอยู่ในท้องตลาด ถูกผลิตออกมาอย่างมากมาย และธุรกิจก็ได้เติบโตขึ้นมากมายหลากหลายประเภท แล้วแบบนี้นักบัญชีและเจ้าของกิจการจะตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีอย่างไรให้เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเอง วันนี้ Prosoft เรามีคำตอบค่ะ
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์