6 วิธีกระตุ้นยอดขายธุรกิจ E-Commerce ฝ่าสถานการณ์ Covid-19

6 วิธีกระตุ้นยอดขายธุรกิจ E-Commerce ฝ่าสถานการณ์ Covid-19



การที่จะทำให้การขายสินค้าผ่านช่องทาง E-Commerce ของคุณ สร้างยอดขาย สร้างกำไรได้อย่างพุ่งกระฉูดนั้น กลับไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ เหมือนแบบที่คุณคิดนะครับ นอกจากสินค้าของคุณต้องมีจุดเด่น มีราคาที่สมเหตุสมผล เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า คุณยังต้องอาศัยเทคนิคการขายต่างๆ เป็น “ตัวช่วย” มาปรับใช้กับสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน ที่ลูกค้าเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น 

แต่จะมีเทคนิคไหนที่น่าสนใจ และสามารถนำไปปรับใช้กับในช่องทาง E-Commerce ของธุรกิจคุณได้ มาติดตามกันได้เลย

1. Discount Code

Discount Code หรือ “โค้ดลดราคา” เป็นชุดคำตัวอักษรหรือตัวเลขสั้นๆ ที่คุณกำหนดขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้ากรอกโค้ดและนำไปใส่ในช่องว่างก่อนชำระเงินทางออนไลน์ ก็จะได้รับส่วนลดตามจำนวนเปอร์เซนต์จากร้านค้าต่างๆ

สำหรับ Discount Code เป็นวิธีที่พัฒนาขึ้นมาจากการลดราคาแบบปกติ วิธีนี้ถือเป็นเทคนิคที่หลากหลายธุรกิจในปัจจุบัน ถ้าอยู่บนช่องทาง E-Commerce ก็มักจะใช้เทคนิคนี้เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจกันทั้งนั้น และแน่นอนว่าเป็นวิธีที่สร้างกำไรให้คุณได้ดีอีกเทคนิคหนึ่งเลยทีเดียว

เพราะ Discount Code เป็นเหมือนการมอบความรู้สึกพิเศษให้แก่ลูกค้าของคุณ เพราะโค้ดส่วนลดมักจะมีเวลาและสิทธิ์ที่จำกัด ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่าช่วงเวลาที่มีโค้ดส่วนลดออกมา นั่นคือช่วงเวลาพิเศษ“ต้องรีบ” ถ้าอยากได้สินค้า นั่นทำให้ Discount Code กลายเป็นที่ตั้งตารอจากลูกค้าหลายๆ คนเฝ้ารอ 

โดยคุณยังสามารถใช้ Discount Code เป็นตัวดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามารู้จักแบรนด์หรือธุรกิจของคุณได้อีกด้วย โดยคุณอาจจะเหมาะความพิเศษเฉพาะกลุ่มให้แก่ลูกค้าใหม่ๆ เช่นแจก Discount Code 40%สำหรับลูกค้าใหม่ที่ซื้อสินค้ากับคุณเป็นครั้งแรกเป็นต้น

ซึ่งนอกจากความสำคัญในการตั้งจำนวนเปอร์เซนต์ของราคาที่ต้องการให้ลดแล้ว (มีผลต่อรายได้และกำไรของคุณ) อีกความสำคัญที่คุณจะละเลยไม่ได้ นั่นก็คือ การตั้งชื่อ Discount Code ให้น่าสนใจนั่นเองครับและดูมีความทันต่อสถานการณ์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณจะสามารถเพิ่มยอดการสั่งซื้อจากลูกค้าได้ง่ายๆ ครับ

ซึ่งประโยชน์ของการมี Discount Code นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มลูกค้าใหม่ๆ แล้วยังทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูมีความทันต่อเหตุการณ์ ใส่ใจความปลอดภัยของลูกค้าแม้ในเรื่องเล็กๆ สำหรับใครที่มีธุรกิจ E-Commerce เป็นของตัวเอง ก็อย่าลืมหยิบเทคนิคนี้ไปลองใช้กันดูนะครับ

2. Free Shipping

อีกหนึ่งเทคนิคเพิ่มยอดการขายที่ได้ผลดี (หรือบางคนอาจจะใช้กันอยู่แล้ว) เป็นอย่างมาก Free Shipping หรือชื่อที่เราคุ้นกันคือ “จัดส่งฟรี” น่าจะเป็นคำที่ทำให้ลูกค้าที่จะซื้อสินค้าของคุณยิ้มแก้มปริแน่นอนครับ เพราะเนื่องจาก สถานการณ์ในปัจจุบัน ที่การขายสินค้ายังไม่สามารถทำผ่านหน้าร้านเหมือนปกติได้ 100% สิ่งที่ต้องอยู่เคียงคู่กับการทำ E-Commerce นั่นก็คือ “การจัดส่ง” 

เพราะการจัดส่งส่วนมากล้วนแล้วแต่เป็นการจัดส่งแบบเสียเงินเพิ่ม ซึ่งต้องไม่ดีแน่ๆ ถ้าคุณเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งทางการขายเยอะ พวกเขาจะสามารถใช้ค่าจัดส่งที่ถูกกว่ามาหั่นราคาและแย่งลูกค้าจากคุณไปได้ในที่สุด แต่คุณสามารถเปลี่ยนเกมส์ให้กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบได้ง่ายๆ ยอมลดกำไรที่จะได้ลงนิดหน่อย แต่ได้ลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใช้เทคนิค Free Shipping 

Free Shipping ถือเป็นการให้โบนัสคืนแก่ลูกค้าที่น่ารักของคุณ ลองคิดภาพตามนะครับ ว่าในหน้าแสดงสินค้าของคุณ มีคำว่า “จัดส่งฟรี หรือ Free Shipping” อยู่จะสามารถดึงลูกค้าให้กดสั่งซื้อได้มากแค่ไหน ซึ่งการใช้เทคนิค Free Shipping นี้คุณต้องควบคู่ไปกับการโปรโมท หรือประชาสัมพันธ์ที่ดีด้วย เพราะถือว่านี่เป็นจุดขายของคุณ 

โดยคุณอาจจะสร้าง Banner ใหม่ไปใส่ไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์เลยครับ เพื่อเน้นย้ำลูกค้าหรือคนแปลกหน้าทั้งหลาย ถึงความคุ้มค่าถ้ามาซื้อสินค้ากับแบรนด์ของคุณ พร้อมกับการยิง Ads ผ่านช่องทางๆ ต่างเพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบถึงโปรโมชั่นสุดคุ้มของคุณ

ซึ่งนอกจากประโยชน์ของการจัดส่งฟรี ที่คุณสามารถมอบให้กับลูกค้าได้แล้วนั้น เทคนิค Free Shipping ยังเปรียบเหมือนตัวทำคอมโบทางการตลาด ที่สามารถนำไปจับคู่เพิ่มความคุ้มกับเทคนิคใดก็ได้ เช่นซื้อสินคากับร้านของคุณวันนี้มี Discount Code ลดราคาให้ 15% แถมด้วยบริการจัดส่งฟรี! 

และถ้าคุณมีการโปรโมทแบรนด์ที่ดี แบบนี้คนที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมหน้าร้านออนไลน์ของคุณ ก็จะเพิ่มเปอร์เซนต์ในการที่จะให้พวกเขากลายเป็นลูกค้าของคุณ เรียกว่าเป็นเทคนิคที่สามารถเปลี่ยน “Visitor” ให้กลายเป็น “Customer” ได้อย่างไม่ยากเย็นครับ

3. New Product Bundles

การที่เราต้องติดอยู่ในบ้านเป็นเวลานาน ภายใต้สถานการณ์ที่การจับจ่ายสินค้าไม่สามารถทำได้เหมือนปกติ นั่นทำให้เกิดความรู้สึกกระสับกระส่ายในการ Shopping Online หรือเปล่าครับ ?

หากคุณคิดว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังเป็นแบบนี้ นี่คือเทคนิคที่คุณควรนำมาใช้กับธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ “New Product Bundle” หรือการขายแบบแพคเกจ ถ้าว่ากันตามทฤษฎี Bundle Sales คือการจัดโปรโมชั่น ขายสินค้าที่มากกว่า 2 ชิ้นขึ้นไป แต่ขายในราคาที่ถูกกว่าแบบธรรมดา 

อ้างอิงจากหนังสือ The Psychology of Pricing เทคนิคนี้แหละครับ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกเทคนิคที่จะทำให้ยอดขายของคุณพุ่งกระฉูด และเว็บไซต์ Amazon เจ้าแห่ง E-Commerce ระดับโลกก็เลือกใช้เทคนิคนี้ในการเพิ่มยอดคำสั่งซื้อเช่นกัน 

ซึ่งผลลัพธ์ของเทคนิค New Product Bundle นี้ก็คือ คุณสามารถดึงลูกค้าให้มาสนใจและเกิดการสั่งซื้อได้จำนวนมาก เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าเงินที่เขาได้เสียไป พวกเขาได้รับความคุ้มค่ากลับมา โดยเฉพาะถ้าคุณมีสินค้าตัวใหม่ล่าสุดที่ต้องการขายออกมาด้วย การใช้เทคนิคนี้ก็ยังเป็นตัวดึงดูดให้ลูกค้าสนใจสินค้าใหม่ของคุณได้มากขึ้นเช่นกัน

และภายใต้สถานการณ์ Covid-19 แบบนี้ที่ลูกค้าไม่สามารถออกไปจับจ่ายได้เหมือนปกติ เทคนิคการขายสินค้าแบบแพคเกจ นำเสนอถึงความคุ้มค่าที่คุณจะมอบให้พวกเขา อาจจะเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้ก็เป็นได้ครับ

จากตัวอย่างเว็บไซต์ Malicious Women พวกเขาเป็นธุรกิจที่ขายสินค้าประเภทเทียนหอม พวกเขาก็เลือกใช้เทคนิค New Product Bundle ในการเพิ่มยอดขายของธุรกิจเช่นกันครับ โดยเขาขายชุดทำเทียนหอมแบบ DIY สำหรับเด็ก ให้ลูกค้าสามารถทำเทียนหอมในกลิ่นที่ตัวเองต้องการ โดยในแพคเกจ ก็จะมีอุปกรณ์การทำมาให้อย่างครบครัน เรียกว่าเป็นตัวอย่างการขายสินค้าแบบ New Product Bundle ที่ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้ามาเป็นอย่างดี

เพราะแทนที่พวกเขาจะขายแค่เทียนหอมเป็นชิ้นๆ หรือขายอุปกรณ์การทำเป็นชิ้นๆ พวกเขากลับขายเป็นแพคเกจชุด DIY ให้ทำเอง เพราะด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน นี่จึงเป็นโอกาสดีที่ครอบครัวจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน การขายสินค้าที่ส่งผลต่อการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว จึงกลายเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลาแบบนี้มากที่สุด 

แต่ !! ถ้าคุณอยากจะนำเทคนิคนี้มาปรับใช้ ต้องคำนึงไว้อย่างนะครับ ว่าการลดราคาหรือจัดโปรโมชั่นอะไรก็ตาม ก็คือการลดกำไรของคุณด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณต้องคำนวณต้นทุนและค่าใช้จ่ายก่อนเสมอ เพราะฉะนั้นเทคนิคนี้จึงเหมาะกับธุรกิจที่มีสินค้าสต็อกไว้เยอะหรือธุรกิจที่กำลังอยากระบายสินค้าครับ

4. Charity Focus

สำหรับเทคนิคนี้น่าจะเหมาะกับการนำมาปรับใช้ในประเทศเราครับ นั่นก็คือ Charity Focus หรือ “การทำกุศล” เทคนิคนี้เป็นเทคนิคการเพิ่มยอดขายทาง E-Commerce ที่นอกจากได้ผลประโยชน์ด้านรายได้แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปในทางที่ดีอีกด้วยครับ (มีความเป็น CSR นิดๆ)

โดยเทคนิค Charity Focus ถ้าให้อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายสินค้าตัวใดตัวหนึ่งหรือยอดขายทั้งหมดของคุณ นำไป “บริจาค” หรือมอบให้กับองค์กร , หน่วยงานต่างๆ ที่สร้างประโยชน์แก่สังคม เพื่อการเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่อยากมีส่วนร่วมบริจาคผ่านการซื้อสินค้าของคุณ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก

ยิ่งภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ที่ทุกคนกำลังได้รับความลำบาก การช่วยเหลือซึ่งกันและกันถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่มนุษย์ด้วยกันสามารถทำให้กันได้ สังเกตุได้ว่าถ้าเป็นธุรกิจที่ใช้เทคนิค Charity Focus นี้ในช่วง Covid-19 จะประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและมีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดีในสายตาลูกค้า

แต่ที่สำคัญที่สุด ผมอยากแนะนำว่าหากธุรกิจใดเลือกใช้เทคนิค Charity Focus คุณควรใช้เทคนิคนี้ด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ไม่หลอกลวงลูกค้า และควรให้ความช่วยเหลือปัญหาสังคมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ใช้เป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายและจากนั้นก็หายไป แต่ต้องควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของคุณเองครับ

5. Local Community Focus

สำหรับเทคนิค Local Community Focus เป็นอีกเทคนิคที่มีความคล้ายคลึงกับ Charity Focus ในข้อที่แล้วครับในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้มีความประสงค์อยากซื้อสินค้ามาใช้เอง คุณสามารถใช้วิธีนี้ในการให้ลูกค้าช่วยเหลือสังคมด้วยการกดบริจาค “สินค้า” ของแบรนด์คุณเอง โดยใช้ระบบ E-Commerce เป็นตัวจัดการ

โดยเทคนิค Local Community Focus กำลังเริ่มได้รับความนิยมในต่างประเทศจากช่วงสถานการณ์ Covid-19 และเป็นการ Support หน่วยงานขนาดเล็กหรือธุรกิจชุมชนให้พวกเขามีกำลังใจที่จะผ่านพ้นวิกฤตไปได้ โดยใช้สินค้าในช่องทาง E-Commerce ของคุณเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือ

แม้เทคนิคนี้อาจจะไม่ใช่เทคนิคทางการขายแบบปกติ แต่ก็เป็นอีกเทคนิคการขายอันแสนยอดเยี่ยม ที่ทำให้คุณกับลูกค้ามีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ธุรกิจมีรายได้และได้ช่วยเหลือสังคมไปด้วยกัน ได้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดี และสามารถสร้าง Impact ให้เกิดการบอกต่อในสังคมได้อีก เรียกได้ว่าเป็นอีกเทคนิคนึงที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แบรนด์หรือธุรกิจคุณได้ในระยะยาวครับ

6. Adapting Social Media Feeds

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคปิดงานง่ายๆ ที่คุณควรต้องทำหากต้องการให้ธุรกิจ E-Commerce ของคุณพุ่งแรงสวนกระแส Covid-19 อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็คือ Adapting Social Media Feeds หรือการปรับ Social Media ของธุรกิจคุณให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

ความหมายของ “การปรับ” ในที่นี้ก็คือ การปรับเนื้อหา Content , Artwork การใช้ Hashtag รวมไปถึงแผนการโปรโมทธุรกิจผ่านช่องทาง Social Media ของคุณให้เข้ากับสถานการณ์ Covid-19 มากขึ้น เพราะแน่นอนครับว่าธุรกิจ E-Commerce ส่วนใหญ่ในปัจจุบันแทบทุกแบรนด์ก็จะมีช่องทาง Social Media ไว้เพื่อติดต่อหรือประชาสัมพันธ์กับลูกค้าอยู่แล้ว

การที่คุณ Adapting Social Media Feeds ให้เข้ากับสถานการณ์ นอกจากจะช่วยโปรโมทช่องทางการขายสินค้าของคุณแล้ว จะทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ ไม่ได้รู้สึกว่าหน้า Social Media ของคุณมีไว้เพื่อขายอย่างเดียว แต่ยังแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อลูกค้า ทันโลก ทันสถานการณ์อยู่ตลอด

โดยคุณอาจจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการใส่ Hashtag ที่เกี่ยวกับ Covid-19 เช่น #stayhome #staysafe เปลี่ยนรูป Cover Photo หรืออาจจะลองเปลี่ยนการเขียน Copywriting หรือการนำเสนอ Content ให้มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้นครับ

ที่มา : Link

 2944
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทั่วทั้งโลกตอนนี้ต่างตื่นตระหนกไปกับการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดระแวงนี้ หลายสิ่งหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความคิดความรู้สึกของคนจำนวนมาก เกิดเป็นความเครียดที่สะสมทับถมไปเรื่อยๆ และไม่รู้จะไประบายเรื่องนี้ได้ที่ไหน เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอสถานการณ์ที่ไม่ต่างกัน ช่วงนี้เรื่อง “กำลังใจ” เป็นสิ่งสำคัญในยามคับขันที่ไม่อาจหากำลังใจจากใครที่ไหน เราก็ต้องเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ซึ่งหากจะมองโลกในแง่ดี การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ก็มีมุมสวยๆให้เราได้คิดบวกอยู่เหมือนกัน
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์