19 วิธี มองโลกมุมบวก สู้ COVID-19

ทั่วทั้งโลกตอนนี้ต่างตื่นตระหนกไปกับการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดระแวงนี้ หลายสิ่งหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความคิดความรู้สึกของคนจำนวนมาก เกิดเป็นความเครียดที่สะสมทับถมไปเรื่อยๆ และไม่รู้จะไประบายเรื่องนี้ได้ที่ไหน เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอสถานการณ์ที่ไม่ต่างกัน ช่วงนี้เรื่อง “กำลังใจ” เป็นสิ่งสำคัญในยามคับขันที่ไม่อาจหากำลังใจจากใครที่ไหน เราก็ต้องเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ซึ่งหากจะมองโลกในแง่ดี การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ก็มีมุมสวยๆให้เราได้คิดบวกอยู่เหมือนกัน

1. ได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น
ในสถานการณ์ปกติเราอาจละเลยเรื่องครอบครัว ลูกเมีย พ่อแม่ ใช้ชีวิตไปกับที่ทำงาน เพื่อน เมื่อสถานการณ์บังคับให้เราต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น เพราะการไปเที่ยวที่ต่างๆ อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 ได้ ในเวลานี้คนส่วนใหญ่ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน เสาร์อาทิตย์ก็อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกญาติพี่น้อง ความอบอุ่นและสัมพันธ์ในครอบครัวก็ดียิ่งขึ้น

2. ทำให้เรารู้จักความสะอาดมากขึ้น
เชื่อได้ว่าตอนนี้คนไทยรู้จัก หน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนส่วนตัว และเจลล้างมือมากขึ้น หากเป็นแต่ก่อนคงไม่มีใครหยิบเอาแอลกอฮอลล์มาพ่นตามที่สาธารณะ ไม่มีใครหยิบเอาเจลล้างมือมาใช้วันละหลายๆครั้ง อย่างน้อยการแพร่ระบาดของโควิด19 ก็ทำให้เรารู้จักความสะอาดมากขึ้นถ้าจะให้ดีก็ควรจะต่อเนื่องพฤติกรรมนี้แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแล้วในอนาคต

3. ลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น
การที่คนส่วนใหญ่ไม่ออกจากบ้าน ไม่ทำกิจกรรมในที่ชุมชน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ไปไหน แถมภาครัฐยังประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ออกไป ซึ่งผลที่ตามมาจากเหตุการณ์เหล่านี้คือ อุบัติเหตุที่ลดลง ในเดือนเมษายนที่เคยได้ชื่อว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากที่สุด แต่เชื่อได้ว่าในปีนี้สถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงเดือนเมษายนจะน้อยที่สุดในรอบหลายสิบปีกันเลยทีเดียว

4. รู้จักวางแผนชีวิตและการเงินมากขึ้น
คนไทยคุ้นชินกับคำว่าอิสระใช้ชีวิตตามความสบายและส่วนใหญ่ไม่รู้จักวางแผนชีวิตและการใช้เงิน การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้เราหันมาสนใจเรื่องนี้ได้มากขึ้น จากความน่ากลัวของโรคที่ใครก็ไม่อยากเป็น ทำให้รู้จักวางแผนใช้ชีวิตและวางแผนเก็บเงินได้ดีขึ้น แม้จะเป็นอารมณ์ในช่วงที่หวาดกลัวแต่ถ้าทำต่อเนื่องต่อไปได้ก็จะดีสำหรับตัวเองมากๆ

5. ทำให้เข้าใจคำว่า “ความรับผิดชอบต่อสังคม” ดีกว่าเดิม
จากหน้าข่าวที่เราติดตามว่ามีบางคนไปเที่ยวในประเทศเสี่ยงแล้วไม่ยอมกักตัว 14 วัน ทำให้ในโลกโซเชี่ยลมีการถล่มเรื่องนี้กันอย่างหนัก ส่งผลให้คนไทยเข้าใจคำว่า รับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น หากเป็นแต่ก่อนที่รับผิดชอบหรือไม่ก็ไม่มีคนสนใจแต่จากการแพร่ระบาดของโควิดที่เห็นผลชัดเจน อย่างน้อยก็ทำให้จิตสำนึกของคนไทยส่วนใหญ่ดีขึ้นได้

6. รู้จักกับความผิดหวัง ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
ช่วงนี้คนผิดหวังกันเยอะ บางคนวางแผนท่องเที่ยวก็ต้องยกเลิกไป บางคนวางแผนเที่ยวสงกรานต์ จองตั๋วกลับบ้านล่วงหน้า ก็ต้องยกเลิกไป บางคนมีกำหนดจัดงานแต่ง งานบวช งานรื่นเริง ก็ต้องเลิกไป ความผิดหวังเหล่านี้ถาโถมเข้ามาสู่สังคม แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราเรียนรู้กับคำว่าความผิดหวังไม่มีอะไรได้ดั่งใจนึกซึ่งจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นได้

7. ลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเดิม
เมื่อไม่ต้องออกจากบ้าน เมื่อไม่ต้องเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ค่าใช้จ่ายก็ลดลง จากเมื่อก่อนที่เราอาจจะมีค่าสังคม ตกเย็นกินข้าวกับเพื่อน ศุกร์เสาร์อาทิตย์ไปเที่ยวที่ต่างๆ เดินห้าง ช็อปปิ้ง ตอนนี้พฤติกรรมเหล่านี้คือสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด19 เมื่อไม่ต้องไปไหน ค่าใช้จ่ายก็ลดลง คิดในแง่ดีเราก็มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น

8. เห็นพลังบวกของคนทั้งโลก เมื่อเกิดวิกฤติ
วิกฤติครั้งนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เราอาจจะเคยเห็นในภาพยนตร์เกี่ยวกับวิธีร่วมแรงร่วมใจรับมือมหันตภัยคุกคาม แต่คราวนี้ได้เห็นจากชีวิตจริงไม่ใช่หนังหรือละคร ผู้นำแต่ละประเทศประกาศมาตรการรับมือทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค เราได้เห็นพลังบวกของคนทั้งโลกว่าในยามนี้ไม่มีใครพูดถึงสงครามเศรษฐกิจ ไม่มีใครคิดแข่งขันทางการค้า ไม่มีใครอยากชิงดีชิงเด่นกับใคร คนทั้งโลกร่วมใจกันเรื่องเดียวคือ หยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด19 ให้ได้

9. ทำให้เรามีสติมากขึ้น
เมื่อสติมาปัญญาก็เกิด หลายคนเกิดอาการสติแตกหรือหวาดกลัวกับการแพร่ระบาดของโควิด19 บางคนยังไม่แน่ใจว่าตัวเองได้รับเชื้อหรือไม่แค่มีอาการใกล้เคียงก็ตีโพยตีพายไปล่วงหน้า ช่วงนี้จึงทำให้คนเราต้องรู้จักการควบคุมสติตัวเองให้มากขึ้น มีสมาธิกับสิ่งที่เกิดอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ต้องหาวิธีรับมือและแก้ปัญหาให้ได้

10. โควิด-19 รักษาให้หายได้
หลายคนอาจตกใจกับตัวเลขผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกที่พุ่งทะลุหลักแสนและมีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่าห้าพันคน แต่หากพิจารณาให้ดี โควิด 19 ไม่ใช่เป็นแล้วต้องตายทุกคน มีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ คนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่คือมีโรคแทรกซ้อนหรือเป็นคนที่ภูมิต้านทานไม่ดีเป็นผู้สูงอายุ และมีหลายคนที่เข้ารับการรักษาและสามารถกลับบ้านได้

11. โอกาสที่ได้หันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากกว่าเดิม
ก่อน อะไรที่เสี่ยง ตอนนี้คนก็ไม่อยากยุ่ง อาหารต่างๆ ก็เลือกกินที่มีแต่ประโยชน์เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองติดเชื้อโควิด 19 อาหารสุขภาพ น้ำสมุนไพร ช่วงนี้จึงขายดีมาก

12. ราคาน้ำมันลดลงฮวบๆ
เรื่องดีๆที่ทำให้ยิ้มได้ก็คือราคาน้ำมันที่ลดลงฮวบ ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันทุกชนิดลงลงอย่างต่อเนื่อง ครั้งละ 0.40-0.60 สตางค์/ลิตร ทำให้ราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซิน และ ดีเซล ตอนนี้ราคาแค่ 20 บาทต้นๆ ถือว่าเป็นการลดราคาน้ำมันที่เป็นประวัติการณ์ ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความวิตกกังวลทำให้คนใช้น้ำมันน้อยลง

13. ทำให้เราห่างไกลอบายมุขมากขึ้น
ผู้ที่ติดเหล้ามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดเชื้อในปอดถึง 2.9 เท่า รวมถึงคนที่สูบบุหรี่ก็มีอัตราความเสี่ยงที่จะทำให้ติดเชื้อในปอดได้มากขึ้น และยิ่งข่าวที่ออกมาว่ามีกลุ่มเพื่อนที่กินเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน ทำให้ติดเชื้อโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่ไม่อยากกินเหล้าหรือสูบบุหรี่ รวมไปถึงการประกาศปิดผับและสถานบันเทิงต่างๆ ก็ลดจำนวนคนเที่ยวลงได้มากและทำให้ช่วงนี้หลายคนห่างไกลอบายมุขได้ดีทีเดียว

14. มีโอกาสได้ Work From Home
คำว่า Work From Home เราได้ยินกันมานานแต่ในสถานการณ์ปกติคงไม่มีนายจ้างที่ไหนคิดจะผลักดันเรื่องนี้จริงจัง แต่สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่าง Work From Home จึงเป็นที่พูดถึงและบางองค์กรก็ผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นจริงเป็นจังทำให้พนักงานได้มีโอกาส Work From Home สมใจอยาก

15. โอกาสได้หยุดพักมากขึ้น
มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 และกลยุทธ์การลดต้นทุนของผู้ประกอบการเนื่องด้วยรายได้ช่วงนี้หดหาย หลายที่ประกาศให้พนักงานสามารถลาหยุดได้โดยไม่รับเงินเดือน มองในแง่ดีคือทำให้เรามีโอกาสได้หยุดพักผ่อนมากขึ้น และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายเมื่อเราต้องกลับไปทำงานเราอาจหวนคิดถึงเวลาแห่งความสุขที่ได้หยุดตอนนี้ขึ้นมาอีกก็ได้

16. สอนให้รู้จักไม่ประมาทกับคำว่า “ชีวิต”
คำว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนใช้ได้เป็นอย่างดี ใครจะไปคิดว่าไวรัสโควิด 19 จากเมืองอู่ฮั่นจะระบาดหนักไปทั่วโลกเหมือนในภาพยนตร์ได้ขนาดนี้ ใครที่เคยคิดว่าเราอยู่ห่างจากแหล่งระบาดโรคนี้ไม่มีทางมาถึง ตอนนี้คงไม่มีใครคิดแบบนั้นอีกแล้ว แม้แต่ในบราซิล ที่ห่างไกลจากจีนยังมีคนติดเชื้อนี้ ดังนั้นบทเรียนของเรื่องนี้คือทำให้เรารู้จักกับคำว่าความไม่ประมาทในชีวิตได้เป็นอย่างดี

17. ทำให้คนทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น
หากเป็นเมื่อก่อนนึกจะกินอะไรก็กิน อยากดื่มอะไรก็ดื่ม เอาที่ตัวเองชอบ ตัวเองต้องการ ซึ่งตั้งแต่โควิด19 แพร่ระบาด ก็ทำให้เรามีโอกาสหันมาทานอาหารที่เป็นประโยชน์มากขึ้นเช่นพวกอาหารจากสมุนไพรต่างๆ ลดการดื่มแอลกอฮอลล์ รวมถึงการออกกำลังกายมากขึ้น ก็เป็นแง่ดีที่อย่างน้อยการแพร่ระบาดก็ทำให้เราสนใจร่างกายตัวเองเพื่อทำให้แข็งแรงมากขึ้น

18. โอกาสของธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่โตเร็วกว่าเดิม
ปกติเราก็คาดหมายว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ชจะเติบโตมาก แต่ใครจะคิดว่าการแพร่ระบาดของโควิด 19 จะส่งผลให้อีคอมเมิร์ชโตเร็วกว่าที่คิด โดยเฉพาะการสั่งสินค้าออนไลน์ บริการอาหารเดลิเวอรี่ รวมถึงการทำธุรกรรมการเงินผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นโอกาสทองของวงการอีคอมเมิร์ชที่มองโลกในแง่ดีคือได้รับอานิสงฆ์ด้านบวกไปเต็มๆ

19. ทำให้มองเห็นการทำงานของภาครัฐชัดเจน
หลายคนอาจบอกไม่อยากสนใจเรื่องการเมือง แต่ตอนนี้คงต้องสนใจเพราะในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ทำให้เรามองเห็นการทำงานของภาครัฐหรือบรรดาคนที่เราเลือกตั้งเข้าไปว่ามีศักยภาพในการทำงานได้มากแค่ไหน รวมถึงทำให้เรามองเห็นสภาพความเป็นจริงในสังคมได้ชัดเจนและมองเห็นประสิทธิภาพในการทำงานว่าดีหรือไม่อย่างไร ซึ่งตอนนี้เชื่อว่าหลายคนได้เห็นและมีคำตอบในใจตัวเองชัดเจนแล้ว

ในภาวะที่หดหู่ หมดกำลังใจ จะเป็นการเปิดประตูให้เราเจ็บป่วยได้ง่าย สำคัญที่สุดตอนนี้คือ “สติ” และต้องไม่ตระหนกไปกับข่าวที่มีทั้งจริงและไม่จริง อย่างน้อยเราต้องเชื่อมั่นรวมถึง “คิดบวก” เพื่อให้มีพลังด้านบวกเข้ามาต่อต้านพลังด้านลบ เป็นหลักจิตวิทยาเบื้องต้นที่เราต้องเอามาใช้ในภาวะเช่นนี้

ที่มา : http://www.thaifranchisecenter.com/

หน้าแรก

News & Events

บทความ

บริหารงานบุคคล