กรณีมิได้ยื่นงบการเงิน
การพาพนักงานไปเที่ยวต่างจังหวัดทางกรมสรรพากรถือว่าเป็นผลประโยชน์ส่วนเพิ่มจากหน้าที่การงานของพนักงานดังนั้นจะถือเป็นเงินได้ของพนักงานเพื่อนำไปรวมในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดาไปเที่ยวพักผ่อนประจำปีต้องเสียงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่ม
เพื่อไม่ให้เป็นเงินได้ของพนักงานและยังสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ถึง 2 เท่า เพียงแค่เปลี่ยนจากการพาพนักงานไปเที่ยวเป็นการจัดสัมมนานอกสถานที่ ก็จะไม่ถือเป็นเงินได้ของพนักงาน
การพาพนักงานไปเที่ยวประจำปี
บริษัทจะต้องมีการกำหนดในระเบียบของบริษัทว่าบริษัทมีภาระที่ต้องจัดสวัสดิการดังกล่าวหรือแจ้งให้พนักงานทราบเป็นการทั่วไป
ตัวอย่างระเบียบของบริษัท
กำหนดให้บริษัทมีภาระที่ต้องจัดสวัสดิการดังกล่าวหรือแม้ไม่มีแต่บริษัทได้แจ้งพนักงานของบริษัทว่าจะมีการจัดสวัสดิการดังกล่าวให้แก่พนักงานเป็นการทั่วไปไม่ระบุเฉพาะเจาะจงแก่พนักงานคนใดคนหนึ่งเช่นนี้รายจ่ายในการจัดสวัสดิการนั้นย่อมถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัท ได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี(3) และ (13) แห่งประมาลรัษฎากร โดยบริษัทต้องคำนวณหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่การจัดสวัสดิการสัมมนานอกสถานที่ (Study Tour) ก็ไม่ต้องถือเป็นเงินได้ของพนักงานตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545
พนักงานทุกคนสามารถเข้าร่วมได้
รายจ่ายในการจัดสวัสดิการท่องเที่ยวสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้(ไม่เป็นรายจ่ายต้องห้าม)แต่พนักงานต้องนำค่าสวัสดิการนั้นไปถือรวมเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา40(1) เว้นแต่การจัดสวัสดิการจัดอบรมสัมมนานอกสถานที่ก็ไม่ต้องถือเป็นเงินได้ของพนักงานตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 267
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 267 ตามลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ https://www.rd.go.th/publish/fileadmin/user_upload/kormor/newlaw/dg267.pdf เปลี่ยนจากพาพนักงานไปเที่ยว >>>>>> ไปสัมมนานอกสถานที่แทน **เปลี่ยนนิดเดียว ประหยัดภาษีกว่าเยอะแยะ**
ค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการสัมมนา
*ถ้ามีภาษี สามารถขอคืนภาษีซื้อได้*
ตัวอย่าง