เรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางยุคสมัยแห่งเทคโนโลยี และดิจิทัล โลกไม่ได้เคลื่อนไปช้า ๆ เหมือนเคยอีกต่อไป ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ออกมามากมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิต รวมไปถึงสร้างประโยชน์นานัปการให้กับการทำธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม นวัตกรรมต่าง ๆ ช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนและเติบโตไป อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในต้นทุนที่ประหยัดขึ้น ผลกำไรมากขึ้น ลงทุนแต่ละครั้งได้ผลตอบแทนกลับมาเกินคุ้ม ซึ่งดูผิวเผินก็เหมือนจะดี แต่เอาเข้าจริงในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งโลกเติบโตไปสู่ยุค AI (Artificial Intelligence) มากเท่าไหร่ มนุษย์ก็ยิ่งถูกแย่งงานและทำให้ตกงานมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้นี้มีแนวโน้มที่หลายอาชีพจะหายไปเพราะถูกหุ่นยนต์และเครื่องจักรเข้ามาทำงานแทน และเพื่อความอยู่รอด มนุษย์งานอย่างเราจึงจำเป็นต้องปรับตัว เพื่อไม่ให้ถูก AI แย่งงาน และวันนี้เราจึงมาส่งต่อข้อมูลดี ๆ ไว้ให้ทุกคนใช้เป็นแนวทางในการปรับตัว ต้องปรับอย่างไร อนาคตจึงจะไม่ตกงานเมื่อหุ่นยนต์ครองเมือง
หลักการทำงานของหุ่นยนต์ คือ ทำงานบนชุดข้อมูลที่ถูกตั้งค่าสร้างแพลตฟอร์มไว้ ซึ่งชุดข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่มีค่าคงที่แน่นอนตายตัว ทำให้เมื่อเจอปัญหาที่ซับซ้อน AI จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม โดยปัญหาที่ซับซ้อนนี้ส่วนมากจะมีปัจจัยอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย และมักเป็นปัจจัยที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ อาทิ ปัจจัยทางด้านอารมณ์ ศีลธรรม ความรู้สึก ซึ่งประเด็นละเอียดอ่อนเหล่านี้ เป็นจุดแข็งที่มนุษย์ทำได้ดีกว่าหุ่นยนต์อย่างแน่นอน และมีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่ AI จะถูกพัฒนาให้สามารถคิดวิเคราะห์และตัดสินใจ ในปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้ดีเทียบเท่ามนุษย์ ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล (Critical Thinking) ที่ไม่ใช่ยึดแต่หลักการเพียงอย่างเดียว ทักษะนี้จะทำให้คุณเป็นผู้รอดชีวิตไม่ถูกยื่นซองขาวให้ออกเพราะ AI อย่างแน่นอน
นอกจากคิดวิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผลแล้ว คุณยังจำเป็นต้องฝึกฝน เรียนรู้ Soft Skills อื่น ๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้มีทักษะที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้ให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทักษะการจูงใจและการโน้มน้าว ทักษะการเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม หรือแม้แต่ทักษะการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งทักษะเหล่านี้จะทำให้คุณอยู่เหนือหุ่นยนต์ และสามารถนำทักษะไปใช้พัฒนางานให้ประสบความสำเร็จต่อไปได้ เติมเต็มในส่วนที่หุ่นยนต์ขาด เพื่อทำให้องค์กรเป็นองค์กรที่สมบูรณ์แบบ ก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งมั่นคงและยั่งยืน
สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำให้ได้ไม่เช่นนั้นการเรียนรู้ทักษะทั้งหมดที่กล่าวมาจะศูนย์เปล่า นั่นคือ การเปิดใจยอมรับความเป็นจริง ว่าอีกไม่นานงานของคุณจะถูกหุ่นยนต์แย่งไป ถึงเวลา
ที่คุณต้องลุกมาปฎิวัติตัวคุณเองแล้ว ปัดฝุ่นการทำงานออกจากตัวเองให้หมด แล้วเริ่มต้นศึกษาและเรียนรู้การทำงานในยุค AI ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อจะได้ปรับตัวและพัฒนาตนเองได้ถูกทาง
ไม่ทำในสิ่งที่หุ่นยนต์ทำได้ แต่ทำในสิ่งที่จะทำให้คุณกลายเป็นหัวหน้าควบคุมหุ่นยนต์อีกที
หวังว่าทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะพอเป็นแนวทางให้คุณได้นำไปใช้ เพื่อปรับตัวเตรียมพร้อมรับมือยุค AI ครองเมือง ถึงแม้ว่าวันนั้นอาจจะยังไม่ได้มาถึงในวันนี้พรุ่งนี้ แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่คุณจะได้กลับมามีไฟในการทำงานอีกครั้ง กลับมาเริ่มต้นศึกษาและเรียนรู้งานใหม่ ๆ ทักษะใหม่ ๆ เหมือนวันแรกที่เริ่มทำงาน ลุกขึ้นสู้อีกครั้งและหันมาเตรียมตัวให้พร้อม
และเมื่อวันที่หุ่นยนต์ครองเมืองมาถึง สมองกลเหล่านี้จะไม่สามารถแตะต้องงานของคุณ หรือแย่งงานที่คุณรักไปได้อย่างแน่นอน
ระบบการฝึกอบรมเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มศักยภาพและระดับความสามารถในการทำงานของพนักงาน เพิ่มคุณภาพของผลผลิตซึ่งผลผลิตที่มีคุณภาพ ย่อมมาจากพนักงาน ที่มีคุณภาพด้วย ลดอัตราการลาออกจากงานอันเนื่องมาจากพนักงาน มีความรู้ความสามารถในเรื่องนั้นๆไม่เพียงพอ ระบบนี้จึงเป็นระบบที่จะช่วยให้ฝ่ายบุคคลากรเก็บประวัติการฝึกอบรมทั้งภายใน และภายนอกขององค์กร ตลอดจนการประเมินผลของการประเมินผลการดูงาน การประชุม/สัมมนา และการประเมินผลการดูงาน ทำให้การประเมินผลแต่ละหลักสูตรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติม
โปรแกรมบริหารงานบุคคล Prosoft HRMI หรือ โปรแกรมเงินเดือน HRMI ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเหลือฝ่ายบุคคล HR อีกมากมายแบบครบวงจร เช่น ระบบจัดเก็บข้อมูลองค์กร ระบบบันทึกข้อมูลพนักงาน ระบบคำนวณเงินเดือน Payroll ระบบบริหารเวลา ระบบลงเวลาออนไลน์ ESS ที่จัดการเรื่องลงเวลา และการลาของพนักงานให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อตอบโจทย์ให้ทุกองค์กรได้โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.prosofthrmi.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.thitaramgroup.com