20 เทคนิค ปลุกไฟในตัวเอง

20 เทคนิค ปลุกไฟในตัวเอง


เคยไหมที่รู้สึกหมดไฟในการทำงานเอาดื้อ ๆ  เพราะต้องเผชิญปัญหากับงานกองโต เพื่อนร่วมงานที่แสนแย่ หรือต้องฝ่าฟันกับปัญหารถติด รถไฟฟ้าคนแน่น จนทำให้รู้สึกเบื่อไม่อยากตื่นขึ้นมาทำงาน วันนี้แอดมินนำบทความดีๆ จาก JobsDB เกี่ยวกับเทคนิค ปลุกไฟในตัวเอง ที่ไม่ว่าจะทำงาน Work from home  หรือ Remote working หรือกระทั่งนั่งทำงานที่ออฟฟิศ ก็มี
พลังใจแห่งการทำงานอย่างเต็มเปี่ยมพร้อมลุยได้ทุกวัน

ปรับทัศนคติโลกแห่งการทำงานใหม่ แม้ว่างานที่ทำในปัจจุบันจะดูน่าเบื่อหรือหมดความท้าทาย แต่หากว่าคุณปรับ Mindset โลกแห่งการทำงานด้วยการคิดบวก จะช่วยปลุกไฟในตัวเองให้ลุกโชนขึ้นมาอีก โดยมีเทคนิคง่าย ๆ ดังนี้

  1. อย่าคิดว่าเป็นงานหนัก  วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการปลุกไฟในตัวเอง คืออย่าคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังทำนั้นเป็น “งานหนัก” แต่ให้คิดว่า งานช่วยขับเคลื่อนตัวคุณให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ
  2. คิดบวก ความคิดเชิงบวกนำไปสู่การกระทำเชิงบวก เพราะจะช่วยจัดการกับความเครียดและช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ด้วย
  3. มองการทำงานเป็นเรื่องสนุก หากคุณต้องการที่จะปลุกไฟในตัวเองอย่างจริงจัง เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งลองเปลี่ยนที่นั่งทำงานในมุมเดิม เพื่อสร้างความสนุกในที่ทำงานและแถมยังมีไอเดียใหม่ ๆ
  4. หาความท้าทายใหม่ หากการทำงานซ้ำไปซ้ำมา หรือความท้าทายน้อยเกินไป จนทำให้คุณหมดหมดไฟในการทำงาน ลองมองหางานที่ท้าทายใหม่ในที่ทำงานที่ช่วยการฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ  เทคนิคนี้จะปลุกไฟในตัวเองได้ดีทีเดียว

ปรับโหมดการทำงานใหม่ หลายคนที่กำลังหมดไฟในการทำงาน เพราะงานกองโตหรือต้องเผชิญกับการทำงานหลากหลายด้านพร้อม ๆกัน เทคนิคที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กลับมามีไฟแห่งการทำงานอีกครั้ง มีดังนี้

  1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยงานที่สำคัญที่สุด หากคุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยงานที่สำคัญที่สุด จะทำให้คุณเจอกับความท้าทายและช่วยปลุกไฟในตัวเองตลอดช่วงเวลาที่เหลือของวัน เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
  2. แบ่งงานเป็นเป้าหมายที่เล็กลง เทคนิคนี้จะทำให้คุณมองเห็นอุปสรรคตลอดทาง เพื่อเตรียมตัวเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น ความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจดูเล็กน้อย แต่สิ่งนี้สามารถกระตุ้นขวัญกำลังใจในการทำงานภายในของคุณได้อย่างมาก
  3. หยุดทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เป็นอีกหนึ่งเทคนิคดี ๆ สำหรับผู้ที่ทำงานแบบ Multitasking เพราะการทำงานดังกล่าวเป็นการทำให้สมองเปลี่ยนการโฟกัสอย่างรวดเร็ว การทำงานของสมองจึงหนักและเหนื่อยล้า ส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
  4. กำหนดเวลาทำงานของตัวเอง  หลายองค์กรเริ่มใช้นโยบาย Remote Working ซึ่งเทคนิคการปลุกไฟในตัวเอง คือ การสร้างสรรค์เวลาทำงานในแบบฉบับตัวเอง โดยอาจเริ่มทำงานช้าไปกว่าเวลาเพื่อนั่งจิบกาแฟและฟังเพลงเบา ๆ ก่อนจะเริ่มงาน
  5. โฟกัสช่วงเวลาที่ใช่ ในช่วงเวลาที่ต้องโฟกัสกับการทำงาน 45-50 นาที ให้ปิดอีเมลและปิดโทรศัพท์ เพราะการวิจัยได้พิสูจน์แล้วว่า การหยุดชะงักมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน เพราะต้องใช้เวลาปรับความสนใจของคุณใหม่กับงานที่ทำอยู่
  6. เรียนรู้ทักษะใหม่ ลองตั้งคำถามดูว่าครั้งสุดท้ายที่คุณเรียนรู้ทักษะใหม่ คือ เมื่อไหร่ และบางทีอาจถึงเวลาที่คุณต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ เพื่อช่วยปลุกไฟในตัวเองให้ลุกโชนอีกครั้ง ให้ตัวคุณได้ตื่นตาตื่นใจกับการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่เปิดกว้างมากขึ้น

 กำลังกายและกำลังใจต้องพร้อม แม้ว่าจะมี Passion ในการทำงานมากแค่ไหน แต่หากร่างกายไม่พร้อมหรือพักผ่อนไม่เต็มที ปัญหาเหล่านี้จะทำให้คุณหมดไฟ สำหรับเทคนิคเพื่อชาร์จพลังให้เต็มที่ มีดังนี้

  1. ร่างกายต้องพร้อม แม้ว่าคุณจะมีพลังใจที่จะทำงานหนัก แต่ความพร้อมทางร่างกายก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรนอนหลับอย่างน้อย 7 -9 ชั่วโมง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
  2. ให้ตัวเองได้พักบ้าง การวิจัยแสดงให้เห็นว่า จริง ๆ แล้วเมื่อคุณหยุดพักบ่อย ๆ ทุก 45-50 นาที คุณจะมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น หลังจากพักระยะสั้น ๆ คุณจะรู้สึกสดชื่นและกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ให้รางวัลกับตัวเอง ตอบแทนการทำงาน ทคนิคที่มีประสิทธิภาพอีกอย่างหนึ่ง คือ การให้รางวัลตัวเองเมื่อทำงานได้บรรลุตามเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยปลุกไฟในตัวเอง แต่จะทำให้คุณรู้สึกดีกับสิ่งที่กำลังทำด้วย
  4. เริ่มต้นงานที่ชอบก่อน เทคนิคนี้สามารถจุดไฟในตัวเองขึ้นมาได้อย่างง่าย ๆ เพราะทำให้คุณรู้สึกดีกับการทำงานและสามารถใช้เวลาในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทริคสร้างพลังบวก ในแต่ละวันหลายคนรู้สึกเหนื่อยล้า ทั้งจากการที่ต้องตื่นเช้าเพื่อไปทำงาน ฝ่ารถติดเพื่อไปทำงาน จนเกิดความเครียดสะสม และขาดความสุขในการทำงาน ลองใช้เทคนิคง่าย ๆ ที่สร้างพลังบวกอย่างไม่น่าเชื่อ

  1. เตือนตัวเองว่า “ทำไมต้องทำ” เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เงินเดือน ที่ทำงานก็เพื่อตัวเองและครอบครัวได้มีความสุข เทคนิคนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ดังนั้นต้องท่อง “ทำไม” ต้องทำงานหนักทุกวัน
  2. หา Mentor ในที่ทำงาน การมีผู้ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาหรือแนะนำไอเดียใหม่ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง จะช่วยขับเคลื่อนงานของคุณให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ
  3. ใช้เพลง ASMR จังหวะเธอราพี เปิดเพลงที่ฟังแล้วช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น เสียงน้ำ เสียงแก้ว จะช่วยคลายอารมณ์และเพิ่มจังหวะในการทำงานให้เต็มไปด้วยการสร้างสรรค์งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. อวดแฟชั่นชุดใหม่ เมื่อคุณรู้สึกไม่สนุกที่จะไปทำงาน ลองซื้อชุดใหม่ ๆ หรือแต่งหน้าแบบใหม่เพื่อเปลี่ยนลุคดูบ้าง สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มพลังบวกให้คุณรู้สึกอยากไปทำงานมากขึ้น
  5. ทบทวนผลงานที่โดดเด่น เมื่อรู้สึกหนักใจกับสิ่งที่ต้องทำงาน กลยุทธ์ที่ดี คือ การนั่งทบทวนผลงานที่เราทำได้ดี ทำได้โดดเด่น หรือได้รับการชื่นชม เพราะจะทำให้เรารู้สึกถึงความสำเร็จ และมีพลังใจฮึกเหิมที่จะเริ่มต้นการทำงานในสัปดาห์ใหม่อยู่เสมอ
  6. โบยบินเพื่อชาร์จแบต หลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี เราควรหาเวลาลาพักร้อน เพื่อพักสมองและพักใจ มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ บ้าง ซึ่งนอกจากจะเป็นการชาร์จพลังให้เต็มที่แล้ว ยังช่วยเปิดโลกของเราให้กว้างยิ่งกว่าเดิมด้วย


ที่มา : Link

 1182
ผู้เข้าชม
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์