ธุรกิจ SMEs ลดต้นทุนอย่างไรให้อยู่รอดในยุควิกฤตเศรษฐกิจ 2020

ธุรกิจ SMEs ลดต้นทุนอย่างไรให้อยู่รอดในยุควิกฤตเศรษฐกิจ 2020

 

     สถานการณ์เช่นนี้ สำหรับเจ้าของธุรกิจรายใหญ่อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่กับธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็กอย่าง SMEs เมื่อกำลังซื้อของลูกค้าหายไป ทำให้รายได้ลดลง ทั้งที่รายจ่ายยังคงเท่าเดิมหรืออาจจะมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ธุรกิจล้มได้ไม่ยาก ดังนั้นสิ่งที่ชาว SMEs ควรทำคือการวางแผนบริหารจัดการต้นทุนใหม่ ลดรายจ่ายลงเพื่อต่อสู้กับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจนี้

     ข้อดีของการลดต้นทุน คือทำให้ธุรกิจของคุณมีผลกำไรมากขึ้น แม้ยอดขายจะเท่าเดิม แต่ถ้าคุณลดต้นทุนด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่น ปรับลดพนักงาน หรือลดคุณภาพของสินค้าและบริการลง ก็จะส่งผลให้มาตรฐานโดยรวมของธุรกิจต่ำลงเช่นกัน ดังนั้น ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า การลดต้นทุนแบบถูกวิธีมีอะไรบ้าง

1.ลดต้นทุนให้ธุรกิจ SMEs ด้วยการเลือกวัตถุดิบอย่างฉลาด
     การลดต้นทุนในส่วนของวัตถุดิบ ทำได้โดยการเจรจาต่อรองกับคู่ค้า (Supplier) เพื่อทำข้อตกลงให้ได้วัตถุดิบในราคาต่ำกว่าตลาด อีกวิธีหนึ่งคือการค้นหาและรวบรวมแหล่งผู้ค้าวัตถุดิบหลายๆ เจ้า เอาไว้เปรียบเทียบราคาและคุณภาพสินค้า เพื่อเลือกวัตถุดิบที่มีราคาและคุณภาพเหมาะสมคุ้มค่ามากที่สุด สุดท้ายคือการซื้อวัตถุดิบในช่วงราคาโปรโมชั่น เช่น การเลือกซื้อวัตถุดิบกับ ที่มีสินค้าราคาโปรโมชั่นหมุนเวียนเปลี่ยนมาให้คุณเลือกซื้อในทุกๆ เดือน ซึ่งสามารถการันตีว่าคุณจะได้สินค้าคุณภาพดี ในราคาถูก ที่ช่วยลดต้นทุนให้ธุรกิจของคุณอย่างได้ผล

2.ลดต้นทุนให้ธุรกิจ SMEs ด้วยการกำจัดต้นทุนแฝง 
     ต้นทุนในการทำธุรกิจไม่ได้มีแค่ค่าวัตถุดิบ ค่าเช่าที่ ค่าน้ำค่าไฟ หรือเงินเดือนพนักงาน แต่ยังมีค่าบริหารจัดการคลังสินค้า ค่าขนส่ง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายยิบย่อยที่เกิดขึ้นระหว่างทำธุรกิจ เช่น ค่ากระดาษถ่ายเอกสาร ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และอื่นๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้ว เราเรียกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ว่าต้นทุนแฝง ซึ่งในบางธุรกิจเมื่อลองคำนวณรายรับรายจ่ายแล้วพบว่าได้กำไรไม่มากเท่าที่ควร สาเหตุหนึ่งก็มาจากค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนแฝงที่ถูกละเลยและไม่ได้รับการบริหารจัดการที่ดีนั่นเอง ดังนั้น อีกวิธีหนึ่งที่สามารถลดต้นทุนให้ธุรกิจ SMEs ได้ ก็คือการลดต้นทุนแฝงลงนั่นเอง

3.ลดต้นทุนให้ธุรกิจ SMEs เพียงสั่งซื้อวัตถุดิบกับร้านค้าที่ให้บริการเครดิตเทอม  
     การเลือกซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบโดยการขอเครดิตเทอม อาจไม่ใช่การลดต้นทุนโดยตรง แต่จะทำให้คุณจับเงินสดไว้ในมือได้นานขึ้น ซึ่งระยะเวลาการให้สินเชื่อหรือเครดิตเทอมของผู้ค้าแต่ละเจ้าจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัท ซึ่งพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของผู้ขอเครดิต ตัวอย่างเช่น บริการเครดิตเทอมของ OfficeMate มีกำหนดเวลาการให้เครดิตเทอมสูงสุด 30 วัน  นั่นคือ คุณสามารถสั่งซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบไปใช้ก่อน แต่ต้องนำเงินมาชำระค่าวัตถุดิบภายใน 30 วันหรือตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีกระแสเงินสดหมุนเวียนอยู่ตลอด ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อหาเงินสดมาหมุนนั่นเอง

4.ลดต้นทุนให้ธุรกิจ SMEs ต้องวางแผนการซื้อและการจัดเก็บวัตถุดิบ  
     การลดต้นทุนด้วยวิธีนี้ สำคัญที่การวางแผนการจัดการวัตถุดิบ ตั้งแต่การสั่งซื้อไปจนถึงการจัดเก็บ คุณต้องวางแผนการสั่งซื้อโดยคำนึงถึงระยะเวลาที่ต้องใช้ในการรอคอยวัตถุดิบ เพื่อที่จะได้รับวัตถุดิบทันกับเวลาเริ่มผลิต และต้องวางแผนการจัดเก็บ ทำสต็อกสินค้าแบบมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน จะได้รู้วันหมดอายุและปริมาณวัตถุดิบที่เหลืออยู่ เพื่อป้องกันกรณีวัตถุดิบหมดอายุก่อนการใช้งานและลดการสั่งซื้อวัตถุดิบซ้ำซ้อนที่ทำให้ต้นทุนการเก็บรักษาบานปลายโดยไม่จำเป็น หรือคุณอาจเลือกใช้บริการจัดซื้อจัดจ้างออนไลน์ เรียกว่า e-Procurement ที่จะช่วยลดต้นทุนในส่วนของการจัดเก็บสินค้า เพราะคุณไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าด้วยตัวเอง แต่ผู้ให้บริการ e-Procurement จะทำหน้าที่เก็บรักษาและจัดส่งสินค้าให้คุณตรงตามเวลา ช่วยประหยัดและลดต้นทุนไปได้มาก

5.ลดต้นทุนให้ธุรกิจ SMEs ด้วยการเพิ่มช่องทางการขายแบบใช้เงินทุนต่ำ    
     ปัจจุบันนี้ มีช่องทางการขายที่แทบไม่ต้องใช้เงินลงทุน นั่นก็คือการขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่อาจต้องใช้การโปรโมทและการเลือกช่องทางการขายที่ตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย แม้การหาฐานลูกค้าออนไลน์จะใช้เวลาพอสมควร แต่เชื่อเถอะค่ะว่าการขายผ่านช่องทางออนไลน์จะช่วยลดต้นทุนในส่วนของค่าเช่าไปได้มาก หรือถ้าใครมีหน้าร้านอยู่แล้ว การเปิดช่องทางออนไลน์ร่วมด้วย จะเพิ่มยอดขายและกำไรให้ธุรกิจของคุณได้มากขึ้นอย่างแน่นอน หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง

ที่มา : Link

 882
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เชื่อว่าไม่มีธุรกิจไหนที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น 100 เปอร์เซ็นต์ บางครั้งก็มีอุปสรรคเข้ามาทักทายเป็นช่วงๆ บางครั้งก็เจอปัญหาที่ควบคุมไม่ได้และหนักหน่อยก็เจอวิกฤตที่อาจทำให้ท้อใจกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่คุณเป็นผู้นำแบบไหนในช่วงวิกฤต คุณรับมือกับปัญหาต่างๆ แบบไหน แล้วคุณจะสามารถพาธุรกิจให้รอดพ้นวิกฤตได้หรือไม่ เราอยากชวนคุณมาสำรวจตัวเองและพัฒนาในจุดที่ขาด ต่อยอดในสิ่งที่มีเพื่อนำพาให้ธุรกิจของคุณแข็งแกร่ง ก้าวข้ามได้ทุกวิกฤต!
แม้ร้านอาหารจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพเนื่องจากถือเป็น 1 ในปัจจัย 4 เพื่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เราจึงได้ยินคำพูดนี้บ่อยๆ ถ้านึกไม่ออกว่าจะทำธุรกิจอะไร ให้ขายอาหารเพราะไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ลูกค้าก็ต้องกิน     ด้วยเหตุนี้ ร้านอาหารจึงเป็นธุรกิจยอดฮิต ไม่แปลกที่จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากเข้ามาชิงพื้นที่ในตลาด การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้จึงสูง และไม่ว่าร้านอาหารจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก สิ่งที่ต้องมีควบคู่กันคือการวางกลยุทธ์ด้านการตลาด     สำหรับคนที่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำการตลาดแบบไหนให้ร้านเป็นที่รู้จัก และลูกค้าประทับใจจนเวียนกลับมาเป็นลูกค้าประจำ วันนี้มีไอเดียการตลาดสำหรับร้านอาหารมาฝากกัน 15 ข้อด้วยกัน ไปดูว่ามีอะไรบ้าง
จากหลักการตลาดที่ธุรกิจนิยมอย่าง หลักการ 4Ps ซึ่งประกอบไปด้วย Product, Price, Place, Promotion แต่เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไป จึงเกิดหลักการใหม่ นั่นคือแนวคิด 4Cs แนวคิด 4Cs ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยึดผู้บริโภคไว้ตรงกลาง จะแตกต่างหรือเหมือนกับ 4Ps อย่างไร มีคำตอบ
วิธีการขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงาน • กรณีว่างงาน (สำหรับลูกจ้าง / ผู้ประกันตน) • กรณีชราภาพ (สำหรับลูกจ้าง / ผู้ประกันตน) • กรณีนายจ้างรับรองกรหยุดงานของลูกค้า อันเนื่องจากเหตุสุดวิสัย (สำหรับนายจ้าง)
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์