วิถีทรงพลัง อยู่อย่างมีพลังบวก….Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba เคยบอกว่า ผู้ประกอบการหน้าใหม่ควรฝึกตัวเองให้ชินกับการถูกปฏิเสธ การเรียนรู้ที่จะอยู่กับการถูกปฏิเสธจะทำให้เราไม่เกรงกลัว และความไม่เกรงกลัวจะทำให้เรามองโลกในแง่ดีมากขึ้น และเดินหน้าต่อไปได้ แม้จะเจอกับอะไรที่หนักหนาสาหัสในชีวิต เขาพัฒนาความไม่เกรงกลัวยังไงเขาบอกว่า ต้องเปลี่ยนความคิดหรือ Mindset บางอย่าง “เมื่อเป็นพนักงานขาย และเราต้องออกไปขายของบางอย่าง เราควรบอกตัวเองว่า ‘วันนี้ ฉันไปหาลูกค้า 10 คน ถ้าบอกปฏิเสธหมด ก็ถือว่าปกติ’ เราก็กลับมาด้วยความสุข แต่ถ้าเราขายของได้กับคนหนึ่ง เราจะโคตรสุขสุดๆ เพราะมันได้มากกว่าที่เราคิด” การมองโลกในแง่ดีหรือคิดบวกคือ ความท้าทายในแต่ละวันของเรา เพราะเราจะต้องโฟกัสและตั้งมั่นที่จะทำ เพื่อเอาชนะสิ่งที่คุกคามและทำให้เราทดท้อได้ตลอดเวลา แน่นอนว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญแน่ๆ มันฝึกกันได้ ยิ่งกับคนที่ชอบคิดลบโดยตลอด ว่ากันว่า ยิ่งคิดบวก สุขภาพก็ยิ่งดีตาม วิถีทรงพลัง...อยู่อย่างมีพลังบวก มีดังนี้
หมายถึงหยุดคิดแต่เรื่องร้ายๆ ให้ตัวเอง ยิ่งคิดลบมากเท่าไร เรื่องพวกนี้จะเข้ามามีอิทธิพลต่อตัวเรามากขึ้นเท่านั้น และการคิดลบ ก็คือการคิด หรือการมโนไปก่อน มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง
เมื่อเริ่มคิดลบ จงหยุดและจดมันลงไป หยุดสิ่งที่กำลังทำ และเขียนสิ่งที่กำลังคิด ให้เวลาตัวเองได้ชะลอห้วงเวลาที่ความคิดลบเป็นใหญ่ เพื่อใช้เหตุผลในการประเมินความจริงจากสิ่งที่จดลงไป สิ่งที่เป็นเรื่องมโน มักมีคำว่า ไม่เคยเลย, เสมอ, แย่ที่สุด, ตลอดกาล ฯลฯ
ลองคิดสิว่า “เราทำกุญแจบ้านหายเสมอไหม” แน่นอนว่า “ไม่” เราอาจลืมบ่อย แต่ส่วนใหญ่คือเราจำได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราจดลงไป จงเลือกแต่ข้อเท็จจริง สิ่งที่เรารู้สึกว่ามีอยู่เสมอหรือจะไม่เกิดขึ้นเลย คือสิ่งที่เรามโนเท่านั้นเอง ถ้าสลัดพวกมันทิ้งได้ เราก็จะหลุดพ้นจากวงจรนี้และก้าวไปสู่มุมมองใหม่ที่เป็นบวก
ไม่ใช่จะไปหาเรื่องเขานะ แต่เป็นการระบุหรือคิดถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นในวันก่อน สัปดาห์ก่อน หรือแม้แต่มองไปข้างหน้ากับเหตุการณ์น่าตื่นเต้นที่เรารอคอย
เราต้องมีเรื่องดีๆ เหล่านี้ เพื่อเบนความสนใจของเราเมื่อความคิดเราเริ่มติดลบ มันไม่ใช่การวาดฝันในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นการนำเรื่องดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้นมาแทนที่สิ่งลบๆ ที่กำลังคุกคามเรา จากนั้นเราก็เพลิดเพลินกับเรื่องดีๆ
นอกจากหาเรื่องดีๆ มาคิดแล้ว ก็ต้องรู้สึกซาบซึ้งหรือขอบคุณสิ่งดีๆ ที่มันเกิดขึ้นด้วย ความรู้สึกขอบคุณสิ่งต่างๆ ว่ากันว่าช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีผลต่อความเครียดได้ถึง 23% จากการวิจัยของ University of California, Davis พบว่า คนทำงานที่ได้รับการปลูกฝังทัศนคติแบบนี้ อารมณ์ก็ดีขึ้น ความวิตกกังวลก็ลดลง เนื่องจากระดับคอร์ติซอลที่ลดลง
ที่มา : www.smeone.info