ความน่าสนใจของเรื่อง multigeneration marketing trend

ความน่าสนใจของเรื่อง multigeneration marketing trend

 

      ในยุคที่ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของปัจเจกเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับการตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพราะแน่นอนว่า ในแต่ละช่วงวัยนั้น มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ความน่าสนใจเรื่อง Multigeneration Marketing Trend นั้นคือ ความท้าทายที่แต่ละแบรนด์ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของคนแต่ละช่วงวัย ดังต่อไปนี้

      Baby Boomer เป็นคนช่วงอายุ 55-73 ปี ช่องว่างระหว่างวัยเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเจนนี้เป็นอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเชื่อมโยงกลุ่มเบบี้บูมเมอร์กับเหล่าผู้ประกอบการที่ต้องการโฆษณาสินค้าด้วยภาพลักษณ์ของคนยุคใหม่อย่าง เจนมิลเลนเนียล และเจนซี เบบี้บูมเบอร์มักถูกละเลยในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง  เพราะจากการสำรวจพบว่า พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้มีเงินสำหรับใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและใช้จ่ายเฉลี่ยแล้วมากกว่าคนวัยอื่น ในสินค้าเกือบทุกรายการ เช่น อาหารสำเร็จรูป ของตกแต่งบ้าน บันเทิง ของใช้ส่วนตัว ของชำร่วย และสินค้าสุขภาพ เป็นต้น อีกทั้ง อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลที่สำคัญของกลุ่ม เบบี้บูมเมอร์ เมื่อต้องตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการในเรื่องใหญ่ๆ เช่น ซื้อบ้าน หรือรถยนต์ และนิยมหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตพื่อสุขภาพ และความงามอีกด้วย

กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมมากกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้น นักการตลาดควรปรับเป้าหมายมุ่งทำการตลาดกับคนกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อ ชอบจับจ่ายใช้สอยเพื่อตนเอง และไม่มีปัญหาทางการเงิน เนื่องจากไม่มีภาระเลี้ยงดูบุตรแล้ว สินค้าและบริการที่เด่นที่สุดที่ควรลงทุนกับคนกลุ่มนี้คือ สินค้าเพื่อสุขภาพ โรงพยาบาล ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และบริการท่องเที่ยว สินค้าด้าน IT ก็ควรออกแบบเพื่อกลุ่มผู้สูงอายุในการใช้งาน ยกตัวอย่าง Nokia ที่มี Featers โทรศัพท์สั่งงานด้วยเสีย สำหรับคนชราที่มีปัญหาทางด้านสายตา ดีไซน์เครื่องเน้นหน้าจอและปุ่มกดขนาดใหญ่ และมีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ทางด้านสินค้าอาหารสำเร็จรูปและร้านอาหาร ควรมีสินค้าหรือเมนูเพื่อคนสูงอายุโดยเฉพาะ เช่น อาหารเพื่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาหารที่มีโภชนาการครบทุกหมู่ เพื่อสุขภาวะที่ดีต่อคนเจนนี้

      Gen X คนช่วงอายุ 44-54 ปี เป็นกลุ่มคนที่ชอบเรียนรู้ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์ ชอบถามคำถาม ชอบความยืดหยุ่น และมีอิสระ ในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น การเลือกดูวิดีโอสอนขั้นตอนต่างๆ ไปปรับใช้กับความเป็นจริง ทดลองทำจริงเพื่อค้นหาคำตอบหรือแสดงให้เห็นทักษะต่าง ๆ นอกจากนั้นยังเป็นเจนที่ใช้จ่ายมากที่สุด เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังในการใช้จ่าย การดูแลครอบครัว ตลอดจนการร่วมตัดสินใจทางการเมือง นับได้ว่าเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยตารางชีวิตที่วุ่นวายและความรับผิดชอบต่อครอบครัว ดังนั้น การบริการที่คนกลุ่มนี้ต้องการคือ กิจกรรมสำหรับเข้าสังคมซึ่งสามารถเติมเต็มชีวิตได้ในเวลาอันสั้น กิจกรรมที่สนุกได้ทั้งครอบครัว ที่อยู่อาศัยที่คนหลายช่วงวัยใช้ชีวิตร่วมกันได้ (Multi-Generation) เพราะเป็นเจนที่มีทั้งสมาชิกใหม่และต้องดูแลสมาชิกครอบครัวสูงวัย จึงต้องมองหาที่อยู่ร่วมกันได้หลายช่วงวัย โดยเฉพาะคนเอเชียอย่างเรา ที่มีลักษณะการอยู่อาศัยแบบนี้อยู่มาก จนเกิดสถาปัตยกรรม และการตกแต่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับปรากฏการณ์นี้ โดยเน้นเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัว

คนเจนเอ็กซ์เป็นกลุ่มที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนและก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของหน้าที่การงาน มีอำนาจและพลังในการตัดสินใจ คนกลุ่มนี้จึงเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของเหล่านักการตลาด ที่สามารถกำหนดให้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่รักครอบครัว สนใจนวัตกรรมสินค้า และบริการที่ช่วยประหยัดเวลา เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ และความเป็นอยู่

     Millennial กลุ่มคนระหว่างอายุ 23-38 ปี ชื่นชอบการทำอะไรตามใจตนเอง สามารถเติมเต็มความสุขให้กับตนเองได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน โดยการเสพความบันเทิงจากโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยการสร้างเสริมกิจกรรมเสริมสุขภาวะที่ดีต่อร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารดีๆมารับประทาน การเลือกชมความบันเทิงจากทีวีหรือรายการต่างๆ เพียงเท่านี้ พวกเขาก็สามารถใช้เวลาไปกับการพักผ่อนได้อย่างเพียงพอแล้ว นอกจากนั้นยังเลือกลงทุนไปกับการกู้ยืมหรือผ่อนบ้าน ซึ่งถือว่า รวดเร็วกว่าเบเบี้บูมเมอร์ ดังนั้น บ้านจึงเป็นการลงทุนที่ส่งผลต่อการใช่ชีวิตของคนกลุ่มนี้พอสมควร

ชาวมิลเลนเนียน ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ หรือสร้างโมเมนต์ที่ดีสำหรับโพสต์บนสื่อโซเชียลมีเดีย ส่วนใหญ่ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับประสบการณ์ที่ยากจะเข้าถึง โดยไม่กังวลที่จะใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงินแม้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว การชื่นชอบการซื้อของออนไลน์ของชาวมิลเลนเนียล เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้ การคัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุด หรือได้ราคาคุ้มค่าที่สุด เป็นเหมือนชัยชนะของการช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรือตกแต่งภายใน เป็นสิ่งที่ชาวมิลเลนเนียลให้ความสนใจ ซึ่งต้องสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งด้านการทำงานและการสร้างคอมฟอร์ตโซนที่ดีสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่จำกัดหรือต้องอาศัยร่วมกับคนเจนอื่น เนื่องจากคนกลุ่มนี้ขึ้นชื่อเรื่องการปรับตัวเขากับเจนอื่นได้เป็นอย่างดี และยินดีจะเข้าร่วมหรืออยู่ร่วมกับคนเจนอื่นในบริบทต่างๆ ดังนั้น ธุรกิจที่จะเข้ามารับพฤติกรรมเหล่านี้คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการ ใช้ร่วมกัน เช่น Co-Living, Co-Working  ซึ่งนอกจากจะได้ลดค่าใช้จ่าย ยังสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ในทุกพื้นที่ที่เข้าร่วมอีกด้วย

      Generation Z กลุ่มคนช่วงอายุ 4- 24 ปี เป็นผู้บริโภคที่มีความใจกว้างที่สุดในการตั้งรับกับสิ่งแปลกใหม่ หรือการเปลี่ยนค่านิยมใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ในเรื่องวางแผนการใช้ชีวิตของเจนนี้ ไม่ได้ต่างไปจากมิลเลนเนียลเท่าใดนัก โดยเฉพาะเรื่องการซื้อบ้านเพื่อเป็นการลงทุนสำหรับชีวิตระยะยาว โดยเลือกมองที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียนและที่ทำงาน เพื่อประหยัดค่าเดินทางมากกว่าคิดเรื่องสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ หรือสังคมเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังคิดหาเงินตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงมีทัศนคติเรื่องการเรียนต่อ และการทำงานต่างจากเจนอื่นๆ เพราะถือว่าการเรียนคือการเดินทางสู่ชีวิตวัยทำงาน ดังนั้น หากรู้ความต้องการของตนเองในช่วงวัยเรียน ก็สามารถลงมือทำงานที่เกี่ยวข้องได้เลย

ถึงแม้ว่าเจนซีจะเสพติดสื่อโซเชียล แต่ก็ถือว่าเป็นเจนที่รู้สึกเหงามากที่สุด เพราะการเติบโตมากับโลกออนไลน์ ทำให้ไม่ถนัดด้านการแสดงออก และสื่ออารมณ์กับผู้คนในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงมักเลือกเข้าช่องทางออนไลน์ที่ให้พื้นที่ส่วนตัว รู้สึกปลอดภัย และสามารถโพสต์รูปหรือเขียนข้อความได้อย่างอิสระ บริการที่คนกลุ่มนี้ต้องการ คือ บริการที่ไม่ต้องกรอกข้อมูลหรือระบุคำจำกัดความเรื่องเพศ นอกจากนั้นยังไม่ซื้อสินค้าหรือเข้าร่วมกิจกรรมจากอินฟลูเอนเซอร์ การทำตามกระแสของเจนซีคือการมองหาความต่างในวัฒนธรรมย่อย กล้าที่จะเข้าไปในสังคมต่างเมืองมีวัฒนธรรมที่แตกต่าง การท่องเที่ยวของพวกเขายังเป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมกับคนในชุมชน และพบว่า นักท่องเที่ยวอายุระหว่าง 18-25 ปี ให้ความสำคัญกับการแยกขยะ ซึ่ง 95% เลือกงดใช้ถุงพลาสติกหรือรับหลอด ตลอดการท่องเที่ยว

      Alpha เป็นเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุ 9 ปี เป็นเจนที่โตมากับเทคโนโลยีดิจิทัลครบครัน จะมองว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน การค้นหาความรู้ใหม่ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันจนแทบไม่ต้องถามพ่อแม่เลย โดยการเปิดหาความรู้จากอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตนเอง เด็กเจนนี้รู้ตัวว่าพวกเขาต้องเติบโตอย่างมีคุณภาพ พวกเขายินดีที่จะตอบสนองต่อกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเอื้อประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ

ทสิ่งแวดล้อมในบ้านมีผลเป็นอันดับต้นๆสำหรับเด็กวัยนี้ โดยอัลฟ่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่บ้าน แต่เน้นไปที่ว่ามีพื้นที่ให้อิสระที่จะใช้จินตนาการได้เต็มที่มากแค่ไหน ซึ่งกิจกรรมที่อัลฟาต้องการเข้าร่วมมักอยู่ในรูปแบบของความชื่นชอบที่หลากหลาย การมีความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมโยงความรู้ในต่างสาขามาใช้ร่วมกันได้ เจนอัลฟ่า จำนวนกว่าครึ่งเริ่มใช้แท็บเล็ตเป็นตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ และนี่ก็นำไปสู่การปรับตัวของบริษัทของเล่น ที่ต้องวางแผนการเล่นและสร้างการเรียนรู้ด้วยเทคดนโลยีสำหรับเด็ก นอกจากนี้ มุมมองการเลือกซื้อสินค้าที่ไม่จำกัดเพศของเจนอัลฟายังเกิดขึ้นโดยพ่อแม่ชาวมิลเลนเนียลอีกด้วย ปัจจุบัน พ่อแม่เจนดังกล่าวมักเลือกเสื้อผ้าแบบไม่ระบุเพศให้กับลูก โดยเปิดโอกาสให้เด็กสามารถเลือกได้ตามใจชอบ

เมื่อการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์ส่งผลให้เกิดสังคมใหม่ๆ การจัด Segment อายุของนักการตลาดแบบเดิมๆอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ทำการตลาดและนำเสนอสินค้าแก่ผู้บริโภคโดยมีมุมมองเกี่ยวกับภาพของกลุ่มเป้าหมายผิดพลาด การทำการตลาดกับคนกลุ่ม Baby Boomer ต้องมองเป็นปัจเจกชน ด้าน Gen X ต้องเป็นสินค้าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับครอบครัวและความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ส่วนด้าน Millennial นั้นไม่ต้องการที่จะถูกรบกวนมากเกินไป ควรเชื่อมโยงผ่านการสร้างความรู้สึกเป็นมิตร แต่สะท้อนความเป็นแบรนด์ออกมาอย่างจริงใจ และในขณะเดียวกัน Generation Z นิยมการสื่อสารด้วยข้อความสั้นๆ ชอบการประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงง่าย และรวดเร็ว สวยงาม เข้าใจง่าย สุดท้าย Alpha สนใจสิ่งที่แตกต่างหลากหลายมากกว่าสิ่งใด ดังนั้นอย่ามองเป็นภาพรวมเหมือนกันทั้งหมดในการทำการตลาด เพราะช่วงอายุที่ต่างกันทำให้สินค้าและบริการที่แต่ละเจนต้องการนั้นต่างกันออกไป

ที่มา : businesslinx.globallinker.com

 3316
ผู้เข้าชม
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์