อาจเป็นเรื่องง่ายมากๆ ถ้าจะบอกว่า “เราต้องตรวจสอบบัญชีและเรื่องการเงินให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้รู้อย่างแน่ชัด
ว่าธุรกิจมีรายได้มากกว่ารายจ่าย” เพราะประเด็นนี้คือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจและยังสามารถกำหนดทิศทางการเติบโต
ได้ในอนาคตด้วย ใช่สิ! เป็นใครก็ต้องบอกว่าการพูดยังไงก็ง่ายกว่าลงมือทำให้สำเร็จอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้น
ลองมาดูกุญแจสู่ความสำเร็จสำหรับการบริหารจัดการกระแสเงินสดดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง และทำได้อย่างไร
1.สร้างช่องทางของรายรับให้หลากหลาย
สิ่งแรกที่มีความสำคัญมากๆ ก็คือ อย่าสร้างรายรับจากการทำธุรกิจเพียงแค่ช่องทางเดียว ยกตัวอย่างเช่น ควรมีทั้งขายปลีก
ขายส่ง การรับเงินก็รับทั้งเงินสด ชำระออนไลน์ บัตรเครดิต หรือจ่ายเป็นงวดๆ เพื่อสร้างโอกาสให้กับเงินที่จะไหล
เข้ามาหมุนเวียนธุรกิจแบบไม่หยุดยั้ง หากเราไปจำกัดหรือตั้งกฎมากเกินไป ลูกค้าอาจต้องคิดนานก่อนจะชำระเงิน
หรือไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งหรือร้านอื่นๆ แทน
2. ตรวจสอบกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ
พยายามตรวจสอบบัญชีให้ได้ว่าในแต่ละช่วง เช่น 3 วัน 5 วัน หรือทุกสัปดาห์ มีรายได้จากธุรกิจกี่บาท ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง
เงินที่ลูกค้าหรือคู่ค้าค้างชำระมีอยู่เท่าไหร่ มีใครบ้าง จะชำระในวันที่เท่าใด สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ผู้ประกอบการควรรู้ทั้งหมด
เพื่อให้สามารถประมาณการหรือคำนวณเงินหมุนเวียนเพื่อจะนำไปใช้จ่ายในภาพรวมต่อไป
3. เจรจาเรื่องการชำระเงิน
สมมติว่ามีลูกค้ามาสั่งสินค้าจากเราไป ลูกค้าแจ้งว่าเมื่อได้รับของจะโอนให้ทันที และเราก็เชื่อ เพราะลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่
ที่มีชื่อเสียงจนกระทั่งลูกค้าได้รับสินค้าแล้วก็ยังไม่ยอมชำระเงิน และเอาแต่ผลัดไปเรื่อยๆ ซึ่งผู้ประกอบการหลายราย
ต้องเผชิญกับความเสี่ยงนี้จนธุรกิจขาดเงินหมุนเวียนทำให้ต้องปิดกิจการไปอย่างน่าเสียดาย โดยแนวทางการแก้ไขก็คือ
1)ให้ลูกค้าเซ็นสัญญาว่าจะจ่ายเงินในวันที่เท่าใดหากไม่ชำระตามกำหนดจะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเพิ่มอย่างไร และ
2) วิธีนี้บริษัทต่างๆ จะนิยมทำกันมากๆ นั่นก็คือการให้ลูกค้าหรือคู่ค้าจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า
เมื่อเราได้รับเงินแล้วค่อยเริ่มงานผลิตสินค้าหรือส่งสินค้าไปให้
4. แยกค่าใช้จ่ายส่วนตัวกับค่าใช้จ่ายทางธุรกิจออกจากกัน
เรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการมือใหม่มักจะพลาดกันก็คือ การนำเงินส่วนตัวกับเงินในการทำธุรกิจมาปนกัน
เช่น นำเงินที่เป็นรายได้จากการทำธุรกิจไปใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมาก
ต่อกระแสเงินสดและเงินหมุนเวียนทางธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจที่กู้เงินมาลงทุนอาจเจ็บหนักเอาได้ไม่ยาก
5. มีระบบแจ้งเตือนการเรียกเก็บเงินที่ดี
การที่ลูกค้าหรือคู่ค้าชำระเงินช้า นั่นหมายถึงว่าเรากำลังประสบปัญหาทางการเงินทันที เพราะเราอาจหมุนเงินไม่ทัน
ต้องขาดทุนต้องไปกู้เงินจากส่วนอื่นมาใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ควรสร้างระบบการติดตามการชำระเงิน
จากลูกค้าให้มีประสิทธิภาพหรือมีระบบแจ้งเตือนเรากับลูกค้าเมื่อใกล้ถึงวันที่เรานัดจ่ายเงิน
เรื่องของเงิน ไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งเป็นเงินที่ใช้ทำธุรกิจซึ่งอาจมีรายได้และรายรับไม่สม่ำเสมอ
ยิ่งต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น