การทำบัญชีดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ดูจะขาดเสียไม่ได้ในการประกอบธุรกิจเพราะการทำบัญชีจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับทราบถึงรายรับและรายจ่ายภายในกิจการของตนเองทั้งหมดซึ่งข้อมูลที่ได้มาในส่วนดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญของผู้ประกอบการในการควบคุมการดำเนินงานของทางบริษัทรู้ว่าจะต้องเพิ่มเงินลงไปในส่วนไหนตัดทอนในส่วนอะไร มีกำไรมากน้อยขนาดไหนในแต่ละเดือนซึ่งสามารถทำให้กำหนดแผนงานที่เหมาะสมให้กับธุรกิจของตนเองได้ในที่สุดบัญชีจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนจะต้องทำแต่ก็มีข้อสงสัยซึ่งอาจจะกลายเป็นปัญหาตามมาในอนาคตว่าถ้าอย่างงั้นธุรกิจ ของผู้ประกอบการควรที่จะจ้างบริษัทรับทำบัญชีเป็นการเฉพาะเข้ามาจัดการดูแลให้ดีหรือไม่และอะไรคือเกณฑ์บ่งชี้ว่าธุรกิจถึงเวลาแล้วที่จะต้องจ้างบริษัทบัญชี
รูปแบบการจัดตั้งธุรกิจคือสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการต้องใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะใช้บริการของบริษัทรับทำบัญชีหรือไม่เพราะถ้าธุรกิจของผู้ประกอบการมีรูปแบบการดำเนินงานที่มีเจ้าของเพียงแค่คนเดียวดำเนินธุรกิจการค้าขายแบบง่ายๆไม่ยุ่งยากซับซ้อนจนเกินไปนักและปราศจากการร่วมหุ้นก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปเสียเงินจ้างบริษัทรับทำบัญชีเลย แต่ถ้าธุรกิจของผู้ประกอบการมีการจดทะเบียนเป็นบริษัทในรูปแบบของนิติบุคคลที่มีข้อกำหนดตามกฎหมายให้ทำบัญชีส่งทุกเดือนก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงและสมควรจะต้องจ้างบริษัทรับทำบัญชีอย่างที่สุดซึ่งข้อนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขอให้ผู้ประกอบการพิจารณาเป็นอย่างแรกหากจะตัดสินใจจ้างบริษัททำบัญชีมาดำเนินงานให้บริษัท
ถ้าธุรกิจมีเงินหมุนเวียนในระบบไม่เกินสองแสนบาทต่อเดือนประเภทร้านขายของ แบบโชว์ห่วยหรือขายสินค้าที่มีหน้าร้านทั่วไปก็คงไม่มีความจำเป็นต้องจ้างบริษัทมาทำบัญชีเพราะเชื่อว่าจำนวนเงินดังกล่าวผู้ประกอบการน่าจะพอดูแลและจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายเองได้แต่ถ้าเมื่อใดที่เงินหมุนเวียนในระบบมากกว่าที่กล่าวไว้ข้างต้นก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องให้บริษัทรับทำบัญชีมาดูแลในเรื่องดังกล่าวให้ เป็นพิเศษ เพราะจำนวนเงินที่มากขนาดนั้นหากผู้ประกอบการเป็นคนทำบัญชีเองและค้าขายหรือ บริหารงานไปด้วยในคราวเดียวกัน ย่อมจะเกิดความล่าช้าขึ้นเป็นธรรมดาและจะนำไปสู่การทำบัญชีที่มีข้อผิดพลาด ตกหล่นมากขึ้นหากมีเวลาที่จำกัดซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำธุรกิจ ถ้ามีความรู้หรือคนรู้จักที่เชี่ยวชาญในเรื่องบัญชีก็ลืมไปได้เลยหากคิด จะจ้างบริษัท ถ้าตัวผู้ประกอบการเองมีความรู้ในเรื่องของบัญชีเป็นอย่างดีอยู่แล้วและหากยิ่งมีใบอนุญาตผู้ตรวจสอบบัญชีอีกด้วย ก็ลืมไปได้เลยหากคิดจะไปจ้างบริษัทอื่นมาทำบัญชีให้บริษัทของตนเองเพราะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณไปโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ว่าการทำบัญชีด้วยตนเองจะต้องไม่กลายเป็นภาระที่มากเกินไปสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องบริหารงานบริษัทร่วมไปด้วยในคราวเดียวกัน
ถ้าคาดการณ์ว่าแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของธุรกิจผู้ประกอบการจะมีอัตราการขยายตัวที่สูงมากขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็วขอแนะนำให้ผู้ประกอบการจัดจ้างบริษัทรับทำบัญชีมาช่วยงานโดยทันทีเพราะบริษัทบัญชีที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเหล่านี้จะเข้ามามีส่วนช่วยวางแผนและพัฒนาโครงสร้างที่ยั่งยืนต่อการขยับขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัทผู้ ประกอบการซึ่งรายละเอียดที่บริษัทบัญชีทำจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าในสายตาของบุคคลภายนอกและจะได้รับประโยชน์ที่คุ้มค่าแน่นอนหากเปรียบเทียบกับเงินที่ต้องจ่ายให้ บริษัทเหล่านี้ในแต่ละเดือน
ถ้าธุรกิจของผู้ประกอบการมีรายละเอียดปลีกย่อยและช่องทางการทำเงินให้กับบริษัทค่อนข้างมากก็สมควรที่จะเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัทรับทำบัญชีน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะต้องเข้าใจในหลักที่ว่าหากบริษัทไหนมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจที่ค่อนข้างมากบริษัทนั้นก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องภาษีที่สูงขึ้นด้วยเป็นธรรมดาซึ่งบางครั้งผู้ประกอบการอาจจะไม่จำเป็นต้องเสียเงินจ่ายภาษีมากถึงขนาดนั้นก็ได้โดยบริษัทที่รับทำบัญชีมักจะมีช่องทางที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในเรื่องภาษีของบริษัทผู้ประกอบการในแต่ละปีลดลงนั่นเอง
โดยความเป็นจริงแล้วทุกๆ บริษัทต่างก็ต้องทำบัญชีด้วยกันทั้งนั้นไม่อาจจะมีบริษัทไหนละเลยในส่วนสำคัญจุดนี้ไปได้ การพิจารณาว่าจะทำบัญชีของธุรกิจด้วยตนเองหรือจะจ้างบริษัทรับทำบัญชีเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการพิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับบริษัทของผู้ประกอบการเองเท่านั้นเพราะการจ้างบริษัทบัญชีมิอาจเป็นคำตอบให้กับธุรกิจที่มีขนาดเล็กได้เสมอไปเนื่องจากจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในทางกลับกันการทำบัญชีด้วยตนเองของบริษัทที่กำลังเติบโตก็มักจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดหากคิดจะให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการทำบัญชีที่เข้ากันได้กับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของตน
บทความโดย : incquity
ที่มา : http://www.prosmes.com